องค์กรสืบสวนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แห่งสหราชอาณาจักร (CAR) ได้ทำการสืบสวนกรณีที่สหรัฐฯ และยูเครนอ้างว่า รัสเซียได้ใช้ขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือในการทำสงครามในยูเครน

พวกเขาตรวจสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่ยิงโดยกองทัพรัสเซียเมื่อเดือนที่แล้ว และพบว่า พวกมันมีส่วนประกอบหลายร้อยชิ้นที่เมื่อสืบย้อนไปแล้ว พบว่าเป็นชิ้นส่วนจากบริษัทต่าง ๆ ที่อยู่ในสหรัฐฯ และยุโรป

“ปูติน” ยัน ไม่มีแผนติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ในวงโคจรหรืออวกาศ

ออสเตรเลียวางแผนสร้างกองทัพเรือใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

ยูเครนขยายแนวตั้งรับภูมิภาคตะวันออก สกัดรัสเซียบุก

CAR ได้ตรวจสอบส่วนประกอบ 290 ชิ้นจากเศษขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่เก็บมาได้จากเมืองคาร์คิฟ ประเทศยูเครน เมื่อเดือน ม.ค. 2024 และพบว่า 75% ของส่วนประกอบได้รับการออกแบบและจำหน่ายโดยบริษัทที่อยู่ในสหรัฐฯ

การค้นพบนี้ถือเป็นรายงานต่อสาธารณะฉบับแรกเกี่ยวกับการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศของเกาหลีเหนือในการพัฒนาขีปนาวุธ และตอกย้ำปัญหาที่ยังคงมีอยู่ของสหรัฐฯ ในการควบคุมไมโครชิปและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งมีไว้เพื่อการใช้งานของพลเรือน ไม่ให้ถูกนำไปใช้ในการพัฒนาอาวุธของเกาหลีเหนือ อิหร่าน และรัสเซีย

ทีมตรวจสอบยังพบว่า ส่วนประกอบอีก 16% ที่พบในขีปนาวุธเชื่อมโยงกับบริษัทในยุโรป และ 9% ที่เหลือเชื่อมโยงกับบริษัทในเอเชีย ส่วนประกอบเหล่านี้ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับระบบนำทางของขีปนาวุธ และสามารถสืบย้อนไปยังบริษัท 26 แห่งที่มีสำนักงานใหญ่ในสหรัฐฯ จีน เยอรมนี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สิงคโปร์ สวิตเซอร์แลนด์ และไต้หวัน

ก่อนหน้านี้เมื่อปีที่แล้ว CAR เคยรายงานว่า ส่วนประกอบภายในโดรนโจมตีของอิหร่านที่รัสเซียนำมาใช้ในยูเครนนั้น มีถึง 82% ที่ผลิตโดยบริษัทของสหรัฐฯ

ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้ ทั้งมาตรการคว่ำบาตรและควบคุมการส่งออกเพื่อจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีชาติตะวันตก

ในช่วงปลายปี 2022 ฝ่ายบริหารของไบเดนยังได้จัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อตรวจสอบว่า ส่วนประกอบของสหรัฐฯ และชาติตะวันตก ไปอยู่ในมืออิหร่านได้อย่างไร และจนถึงตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่า คณะทำงานเฉพาะกิจมีความคืบหน้าไปมากน้อยเพียงใดแล้ว

รายงานล่าสุดของ CAR ไม่ได้ระบุชื่อบริษัทที่ผลิตส่วนประกอบดังกล่าว เนื่องจากไม่มีหลักฐานว่าบริษัทเหล่านั้นจงใจจัดส่งชิ้นส่วนไปยังเกาหลีเหนือหรือไม่ โดยส่วนประกอบมีแนวโน้มที่จะถูกเปลี่ยนเส้นทางไปที่ไหนสักแห่งในห่วงโซ่อุปทานที่กว้างใหญ่ทั่วโลกเมื่อบริษัทขายชิ้นส่วนเหล่านั้นให้กับผู้จัดจำหน่ายต่างประเทศต่าง ๆ

การตรวจสอบยังแสดงให้เห็นว่า เกาหลีเหนือสามารถผลิตขีปนาวุธและส่งไปยังรัสเซียได้อย่างรวดเร็ว ส่วนประกอบที่นักวิจัยตรวจสอบได้รับการผลิตระหว่างปี 2021-2023

เมื่อพิจารณาจากวันที่ผลิตดังกล่าว ทีมตรวจสอบกล่าวว่า ขีปนาวุธดังกล่าว “ไม่สามารถประกอบได้ก่อนเดือน มี.ค. 2023” และรัสเซียจึงเพิ่งนำมาใช้ในยูเครนในเดือน ม.ค. 2024

ผลการตรวจสอบระบุว่า “เกาหลีเหนือได้พัฒนาเครือข่ายการเข้าซื้อสิ้นส่วนที่แข็งแกร่ง ซึ่งสามารถหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรได้โดยไม่ถูกตรวจพบ”

CAR กล่าวว่า การตรวจสอบขีปนาวุธของเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นว่า “เกาหลีเหนือสามารถผลิตอาวุธขั้นสูงได้ โดยบูรณาการส่วนประกอบต่าง ๆ ที่ผลิตเมื่อเร็ว ๆ นี้เมื่อปี 2023 แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมาตั้งแต่ปี 2006 ที่ห้ามการผลิตขีปนาวุธโดยเกาหลีเหนือก็ตาม”

เรียบเรียงจาก CNN

ย้อนความสัมพันธ์ 32 ปี “สมเด็จฮุน เซน – ทักษิณ” แนบแน่นแค่ไหน?

ผลบอลพรีเมียร์ลีก แมนฯซิตี้ ชนะ เบรนท์ฟอร์ด ฮาลันด์ ซัดประตูโทน

ธปท.เพิ่ม “วันหยุดธนาคาร” รับลูก ครม. สงกรานต์นี้หยุดยาว 12-16 เม.ย.67 คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง